ศีล 8

พุทธธรรมคำสอน


..กลับอันไหนก็ได้..
ศีล 8
  ศีลแปด หรือ อุโบสถศีล เป็นศีลของคฤหัสถ์ หมายถึง อุบาสกอุบาสิกาทั่วไป มิใช่สงฆ์ (ซึ่งมีศีลเฉพาะตนอยู่แล้ว) โดยมักจะรับศีลแปดในวันพระ นิยมรักษาศีลแปดเป็นเวลา 1 วัน หรือ 3 วัน จัดเป็นศีลขั้นต่ำของพระอนาคามี
โดยปกติผู้รักษาศีลจะเปล่งวาจาอธิษฐาน ที่จะขอสมาทานศีลตั้งแต่เช้าของวันนั้น หากรักษาศีลแปดเป็นเวลา 1 วัน เรียกว่า “ปกติอุโบสถ” และหากรักษา 3 วัน เรียกว่า “ปฏิชาครอุโบสถ
  
ศีลทั้ง 8 ข้อ ประกอบด้วย
ข้อ1   ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการฆ่าสัตว์
ข้อ2   อทินฺนา ทานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการลักสิ่งของที่ผู้อื่นมิได้ให้
ข้อ3   อพฺรหฺมจริยา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการประพฤติผิดพรหมจรรย์ (ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ใกล้กันไม่ได้ แต่ศีล ๕ อยู่ใกล้กันได้)
ข้อ4   มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการพูดปด พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ
ข้อ5   สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการดื่มสุราเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
ข้อ6  วิกาลโภชนา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการบริโภคอาหารในยามวิกาล (หลังเที่ยงวันถึงรุ่งเช้าของวันใหม่)
ข้อ7  นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการฟ้อนรำขับร้อง ประโคมดนตรี และประดับร่างกายด้วยดอกไม้ของหอม เครื่องประดับ เครื่องทา เครื่องย้อม
ข้อ8  อุจฺจาสยนมหาสยนา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการนั่งนอนเหนือเตียงตั่ง ที่เท้าสูงเกิน ภายในมีนุ่นหรือสำลี

ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างอุโบสถศีลกับศีล 8
1.อุโบสถศีล กับ ศีล 8 มีข้อห้าม 8 ข้อเหมือนกัน
2.คำอาราธนา (ขอศีล) แตกต่างกัน
3.อุโบสถศีล มีวันพระเป็นแดนเกิด สมาทานรักษาได้เฉพาะ วันพระเท่านั้น ส่วนศีล 8 สมาทานรักษาได้ทุกวัน
4.อุโบสถศีล มีอายุ 24 ชั่วโมง (วันหนึ่งคืนหนึ่ง) ส่วนศีล 8 ไม่มีกำหนดอายุในการรักษา
5.อุโบสถศีล เป็นศีลสำหรับชาวบ้านผู้ครองเรือน หรือเป็นศีล ของชาวบ้านผู้บริโภคกาม (กามโภคี) ส่วนศีล 8 เป็นศีลสำหรับชาวบ้านผู้ไม่ครองเรือน เช่น แม่ชี

คำอาราธนาศีล 8
มะยัง ภันเต  ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามะ ฯ
ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามะ ฯ
ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามะ ฯ

คำให้ศีล
เมื่อคฤหัสถ์อาราธนาศีลแล้ว พระพึงให้ศีล ดังนี้
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ   
(3 ครั้ง)

บทไตรสรณคมน์

   พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
   ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
   สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

 
   ทุติยัมปิ  พุทธัง สะระณัง  คัจฉามิ
   ทุติยัมปิ  ธัมมัง  สะระณัง  คัจฉามิ
   ทุติยัมปิ  สังฆัง  สะระณัง  คัจฉามิ 
 
   ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง  คัจฉามิ
   ตะติยัมปิ ธัมมัง  สะระณัง  คัจฉามิ
   ตะติยัมปิ สังฆัง  สะระณัง  คัจฉามิ
พระว่า  "ติสะระณะคะมะนัง นิฏฐิตัง"
โยมรับ  "อามะ ภันเตฯ"
    1. ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
   2. อทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
   3. อพรัหมะจะริยา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
   4. มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
   5. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฺฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
   6. วิกาละโภชะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
   7. นัจจะคีตะวาทิตะ วิสูกะทัสสะนามาลาคันธะวิเลปะนะ ธาระณะ มัณฑะนะ วิภูสะนัฏฺฐานา เวระมะณี   สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
   8. อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

(พระสวดรับรองว่า)    อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ  สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย ฯ 

(รับพร้อมกันว่า)    " สาธุ " 
 
>>กลับ<<
กรรมบถ10 ศีล 5ศีล 8ศีล 10
กรรมธรรมหลักธรรมพระรัตนตรัย