ศีล 5

พุทธธรรมคำสอน


..กลับอันไหนก็ได้..
ศีล 5
   ศีล 5 คืออะไร หมายถึงอะไร ศีลพื้นฐานที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้ชาวพุทธทุกคนยึดถือปฏิบัติเป็นหลักของชีวิต
  
ศีล 5 ข้อ มีอะไร บ้าง พร้อมหลักปฏิบัติ
ศีลข้อที 1 ปาณาติปาตาเวรมณี หมายถึง การละเว้นจากการฆ่าชีวิตสัตว์ทุกชนิด
ศีลข้อที่ 2 อทินนาทานาเวรมณี หมายถึง การเว้นจากการลักทรัพย์ หรือทรัพย์ที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้
ศีลข้อที่ 3 กาเมสุมิสฉาจาราเวรมณี หมายถึง การละเว้นจากการประพฤติผิดในกาม 
การประพฤติผิดลูกผิดเมียคนอื่น (มีกิ๊ก มีชู้ก็ไม่ควร ยกเว้นแต่ จะมีการแต่งงาน 
และหรือมีการรับรู้รับเห็นด้วยจากผู้ปกครองของทั้งสองฝ่าย)
ศีลข้อที่ 4 มุสาวาทาเวรมณี หมายถึง การละเว้นจากการพูดปดงดเท็จ พูดจาโกหก พูดไม่อยู่กับร่องกับรอย
ศีลข้อที่ 5 สุราเมรยมัฌชปะมาทัตถานาเวรมณี หมายถึง การละเว้นจากการดื่มสุราเมรัย
และเครื่องดองของมืนเมาทุกชนิด

ศีล 5 มีความหมายคือ
1. เว้นจากทำลายชีวิต
2. เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้
3. เว้นจากประพฤติผิดในกาม
4. เว้นจากพูดเท็จ
5. เว้นจากของเมา คือ สุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท

ข้อที่สำคัญที่สุดในทางกลับกันที่ทำลายศีล 5 มี
1. การดื่มสุราเมรัย เป็นบ่อนทำลาย ทำลายศีลข้ออื่นๆ
2. การดื่มสุราเมรัย ทำให้สามารถพูดเท็จได้
3. การดื่มสุราเมรัย ทำให้ประพฤติผิดในกามได้
4. การดื่มสุราเมรัย ทำให้ลักขโมยได้
5. การดื่มสุราเมรัย ทำให้ทำลายชีวิตบุคคลอื่นได้
   สุรา ข้อที่ 5 จึงเป็นที่บังเกิดแห่งความประมาทในทุกเรื่อง

การอาราธนาศีล 5
มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัจะ สีลานิ ยาจามะ
ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
(ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอศีล 5 ข้อพร้อมทั้งพระรัตนตรัยเพื่อประโยชน์แก่การจะรักษาต่างๆกัน)
จากนั้นประธานสงฆ์ จะนำกล่าว นมัสการพระรัตนตรัย
(นะโมตัสสะฯ)ก่อน 3 จบ จึงว่าตาม 3จบ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (นะโม 3 จบ)
จากนั้น ประธานสงฆ์ จะกล่าวนำเข้าถึงไตรสรณคมน์ ให้ว่าตามทีละวรรค ดังนี้
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ประธานสงฆ์จะกล่าวว่า "สะระณะคะมะนัง นิฏฐิตัง” (บัดนี้ได้เข้าถึงซึ่งพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งแล้ว) ให้รับว่า “อามะ ภันเต” (ครับ/เจ้าค่ะ)
จากนั้นประธานสงฆ์ จะนำกล่าวสมาทานศีลทีละข้อ พึงกล่าวตามทีละข้อดังนี้
ปาณาติปาตา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อทินนาทานา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุรา เมระยะ มัชชะ ปะมาทัฏฐานา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปทานิ (ขอสมาทานศีล 5 นี้)
สีเลนะ สุคติง ยันติ (ศีล นั้นจักเป็นเหตุให้ถึงความสุข)
สีเลนะ โภคะสัมปะทา (ศีล นั้นจักเป็นเหตุให้ได้มาซึ่ง โภคทรัพย์)
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ (และศีลนั้นยัง จะเป็นเหตุให้ได้ไปถึง นิพพาน คือความดับเย็นจากกิเลส เครื่องเศร้าหมอง ทั้งปวง)
ตัสสมา สีลัง วิโสธะเย (ศีล จึงเป็นสิ่งที่วิเศษนักที่เธอทั้งหลายพึงยึดถือเป็นหลัก ประจำชีวิต ประจำจิตใจ ปฏิบัติ ให้ได้ ดังนี้ แล)

>>กลับ<<
กรรมบถ10 ศีล 5ศีล 8ศีล 10
กรรมธรรมหลักธรรมพระรัตนตรัย